การเริ่มต้น

การเทรดมาหลายปี ฉันรู้สึกว่าตัวเองสามารถทำกำไรได้อย่างมั่นคง แต่ความจริงแล้วเงินในบัญชีของฉันยังคงไม่มีการเติบโต และเคยทำสถิติยอดเงินต่ำสุดอยู่หลายครั้ง ทุกสุดสัปดาห์ ฉันมักจะตรวจสอบและสรุปการเทรดของสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าทิศทางของตลาดในหลายครั้งชัดเจน และกลยุทธ์ของฉันก็เป็นไปในทางที่ถูกต้อง เพียงแค่ลดการเทรดที่ถูกอารมณ์ครอบงำ ผลลัพธ์อาจแตกต่างกัน แต่ทำไมฉันถึงทำพฤติกรรมซ้ำๆ ที่นำไปสู่การขาดทุน? ฉันดูเหมือนจะเข้าใจปัญหาของตัวเอง แต่ก็มักจะจับต้องได้ยาก บางครั้งฉันสามารถจัดการได้ แต่บางครั้งก็ไม่สามารถยับยั้งมันได้ นี่คือการวิเคราะห์ของฉันเอง เป็นการเตือนใจตัวเอง การเทรดเป็นเรื่องที่เป็นส่วนตัวมาก ต้องเข้าใจปัญหาของตัวเองเพื่อต้องหาวิธีการแก้ไข อย่าให้ปัญหาของฉันรบกวนคุณ มันอาจจะไม่ใช่ปัญหาของคุณเลย

การมองหาสถานการณ์การเทรด

ฉันเคยพยายามหาสถานการณ์การเทรดในกรอบเวลาแตกต่างกัน ตั้งแต่ M1 ถึง D1 แต่เนื่องจากไม่คุ้นเคยกับการคอยหยุดการขาดทุนที่ใหญ่เกินไปและต้นทุนเวลาที่สูงในการเทรดที่ล้มเหลว ฉันจึงมุ่งความสนใจไปที่โอกาสการเทรดที่ M15 และ H1 เพื่อลดการกระจายข้อสนใจ และพิจารณาผลกระทบของสเปรด ฉันจำกัดคู่สกุลเงินที่เทรดในระดับหลักเท่านั้น แนวคิดการเทรดของฉันค่อนข้างชัดเจน คือ ใช้การหยุดการขาดทุนที่ต่ำเพื่อแลกกับผลกำไรที่มาก และรักษาค่าชนะที่สูง (มากกว่า 60%) แนวคิดนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลการเทรดที่ผ่านมา

ความสงสัย

แต่ในกระบวนการดำเนินการ มักจะมีความกังวลบางประการ: 1. ความสงสัย เมื่อฉันเห็นสัญญาณในการเข้าตลาด ถ้าราคาหรือเคลื่อนไหวไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ฉันจะเริ่มสงสัยในความถูกต้องของสัญญาณนั้น ความสงสัยนี้จะกลายเป็นการยืนยันให้ชัดเจนว่า นี่คือการเทรดที่ไม่ดี ฉันควรออกจากตลาดแทนที่จะรอให้การขาดทุนขยายไปจนถึงจุดหยุดขาดทุน บางครั้งความสงสัยนี้ช่วยลดการขาดทุน แต่บางครั้งก็ทำให้พลาดการเทรดที่ดี หากฉันยืดหยุ่นในการใช้หลักการหยุดขาดทุนแบบกระตุ้น คิดว่าปัญหานี้จะถูกแก้ไขได้ ฉันเคยทำเช่นนี้ แต่มีปัญหาใหม่เกิดขึ้น เมื่อการหยุดขาดทุนแบบกระตุ้นไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้สามสี่ครั้ง ฉันจะเริ่มสงสัยกลยุทธ์ของตัวเอง และคิดว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงในตลาด (ก็เป็นไปได้) ข้อมูลสถิติก่อนหน้านี้อาจจะไม่มีผล แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งหรือสองวัน ฉันเห็นว่ากลยุทธ์ของตัวเองยังสามารถใช้ได้อีกครั้ง ฉันจึงมีความมั่นใจในตัวเองอีกครั้งและเริ่มเข้าตลาดอีกครั้ง แต่...

ความสงสัยอีกประเภทหนึ่ง

2. ความสงสัยอีกประเภทหนึ่ง ฉันตั้งกฎให้กับตัวเองว่า สำหรับสัญญาณที่ไม่ชัดเจน ให้ละเลยมัน! เฉพาะเกิดขึ้นว่า ฉันรอคอยอย่างอดทนวันหนึ่งโดยไม่ได้พบสัญญาณที่ชัดเจน และฉันได้หลีกเลี่ยงสัญญาณที่ไม่ชัดเจนหลายอย่าง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎ แม้ว่าจะไม่มีการเทรด แต่ฉันก็ปฏิบัติตามกฎได้เป็นอย่างดี ในช่วงเวลานั้น ฉันรู้สึกเบื่อเล็กน้อย จึงไปหาความสนุกในฟอรัม สิ่งที่ทำให้ฉันผิดหวังคือ มีคนไม่กี่คนที่น่ารำคาญทำเงินได้ในวันนี้ (กล่าวคือ เป็นเรื่องธรรมดา เพราะมีคนที่ทำเงินและคนที่ขาดทุนตลอดเวลา) ทำไมกลยุทธ์ของฉันไม่มีสัญญาณ? ฉันควรจะปรับปรุงกลยุทธ์ของฉันไหม...

ความวิตกกังวล

3. ความวิตกกังวล ฉันเชื่อว่ากลยุทธ์ของฉันมีประสิทธิภาพ สิ่งที่ฉันต้องทำก็คือรอจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าตลาด แต่ถ้าสองวันที่ผ่านมาไม่พบโอกาสรอที่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อครั้งหนึ่งอาจจะเสียโอกาสไปเพราะไปข้างนอกหรือกินข้าว ฉันเริ่มรู้สึกเครียดและวิตกกังวล โอกาสครั้งถัดไปกลายเป็นเรื่องเร่งด่วนและไม่สามารถพลาดได้ (ความคิดว่าตลาดย่อมมีโอกาสก็ไม่สามารถลดความวิตกกังวลของฉันได้) ช่วงนี้เมื่อเห็นโอกาสได้ แม้ว่านี่จะไม่ใช่สัญญาณที่ดี แต่ฉันกลับไม่สามารถพลาดได้ ฉันต้องเข้าไป! จากนั้น... ฉันก็หยุดขาดทุนออกมาอย่างน่าอับอาย นี่แท้จริงเป็นสัญญาณที่ดีหรือเป็นการหยุดขาดทุนที่ถูกต้อง?

ความกลัว

4. ความกลัว ความกลัวของฉันมักเกิดขึ้นในเวลาที่ไม่เหมาะสม เมื่อเข้าตลาด ราคากำลังไปในทิศทางที่ดี แต่ทันใดราคาก็กลับตัว และกำไรที่เคยแน่ใจเริ่มหดหายไป มันอาจเป็นการเข้าตลาดที่ผิดพลาด หากไม่ถือใจเพื่อออกจากการเทรดได้ทันที จะทำให้เกิดการขาดทุน ฉันไม่สามารถต้านทานความกลัวนี้ได้และออกจากตลาด บางครั้งฉันสามารถช่วยการขาดทุนไว้ได้ แต่บางครั้งฉันก็พลาดการเทรดที่ทำกำไร หากตั้งเป้าหมายการหยุดขาดทุนที่เหมาะสมได้ระดับหนึ่ง ก็รู้สึกสบายใจให้ตลาดตัดสินผลลัพธ์ แต่ความจริง ฉันยังคงออกจากตลาดก่อนที่จะถึงจุดหยุดขาดทุน และถอนการหยุดขาดทุนทำให้ราคาขโมยทำให้เกิดขาดทุน

ความกลัวอีกประเภทหนึ่ง

5. ความกลัวอีกประเภทหนึ่ง คราวนี้ฉันพบโอกาสและเข้าตลาด ราคากำลังไปอย่างราบรื่น มีผลกำไรจำนวนมาก แต่ราคากลับไม่เดินต่อไปและเริ่มกลับลง ไม่ใช่เวลาที่จะทนรออีกแล้ว ฉันควรยอมรับและอาจมีโอกาสที่ราคาจะกลับมา แต่ตลาดไม่ได้ตามใจฉัน ผลกำไรต่ำลง เข่นในห่วงสงสัยในตัวเอง ฉันจึงตัดสินใจออกตลาด ได้รับผลกำไรอย่างน้อยก็ยังดีกว่า หลังจากปิดการเทรด ฉันไปชงชาและเมื่อกลับมาดู ราคาก็เริ่มขึ้นไปอีกครั้ง...

ความมั่นใจ

6. ความมั่นใจ ฉันได้พลาดโอกาสสองครั้งอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อฉันใกล้จะเข้าตลาดอีกครั้งแล้วเกิดความลังเล คิดถึงการขาดทุนครั้งที่ผ่านมา ยังวนเวียนอยู่ในหัวใจ ราวกับเป็นการเตือนฉันว่านี่ไม่ใช่โอกาสที่ดี ฉันเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจในกลยุทธ์ของตัวเอง มันดูไม่เชื่อถือได้ ไม่สามารถให้สัญญาณที่แน่ชัด ทุกอย่างดูไม่มีความแน่ใจ มันทำให้ฉันรู้สึกผิดหวัง และเริ่มตั้งคำถามว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะทำอาชีพนี้ เพราะการขาดทุนมักจะเกิดขึ้นง่าย ในขณะที่การรักษาความมั่นคงนั้นทำได้ยาก การขาดทุนแต่ละครั้งยิ่งทำให้ความรู้สึกสิ้นหวังของคุณแข็งแกร่งขึ้น และการทำกำไรแต่ละครั้งไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมผลข้างเคียงที่เกิดจากการขาดทุนครั้งถัดไป

ความโลภ

7. ความโลภ ฉันสามารถทำกำไรได้หลายครั้งติดต่อกัน แต่ตำแหน่งการเทรดในแต่ละครั้งยังไม่มาก ฉันหวังว่าจะเพิ่มตำแหน่งเพื่อเร่งการเติบโตของเงินทุน ฉันจึงตัดสินใจเพิ่มตำแหน่งเป็นสามเท่าสำหรับการเทรดถัดไป เพราะไม่ต้องการเสียเวลาอีกแล้ว แต่ฉันไม่แน่ใจว่าเงินทุนจะสามารถรองรับการตั้งหยุดขาดทุนสามเท่าที่ต้องการได้หรือไม่ อาจจะไม่ต้องคิดมากนักเพราะการหยุดขาดทุนไม่น่าเกิดขึ้นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคือ ฉันไม่สามารถรับมือกับการหยุดขาดทุนสามเท่าได้ก่อนที่ราคาจะถึง หากไม่ตื่นตระหนก ขายออกไปแบบนี้ หรือหลังจากที่ฉันทนต่อการขาดทุนสามเท่าไปสองสามครั้ง ฉันก็ไม่กล้าทำการเทรดครั้งถัดไป

การถูกหรือผิด

8. การถูกหรือผิด ความถูกต้องสำคัญกับฉันมาก แม้จะเป็นการขาดทุนเพียงเล็กน้อย ไม่ถึง 1/100 ของจำนวนเงินในบัญชี แต่ฉันจะรู้สึกว่านี่คือการเทรดผิดพลาด ทำให้รู้สึก "งี่เง่า" การหยุดขาดทุนไม่ถูกใช้เพื่อรักษาเงินทุน แต่ใช้เป็นเครื่องการทดสอบความถูกต้องของฉัน การทำกำไรไม่ใช่การพิสูจน์ว่าระบบของฉันดี แต่เป็นการตัดสินว่าฉันตัดสินใจถูกต้องหรือไม่ ดูเหมือนจะเป็นความคิดที่ไร้สาระ แต่จริงๆ แล้วสร้างความยุ่งยากให้ฉันในระยะเวลานาน แม้ว่าฉันจะรู้ถึงผลเสียของจิตใจนี้ แต่การแก้ไขนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

วัตถุประสงค์และอัตวิสัย

9. วัตถุประสงค์และอัตวิสัย กฎเป็นสิ่งที่เป็นวัตถุประสงค์ แต่การปฏิบัติตามกฎอาจจะเป็นอัตวิสัย ฉันสามารถกำหนดให้หยุดขาดทุน 50 จุด แต่ว่าฉันยอมรับหยุดขาดทุน 50 จุดได้หรือไม่นั้นคือกุญแจสำคัญในการปฏิบัติตามกฎนี้ "การขาดทุนเป็นส่วนหนึ่งของการเทรด" "ผลการเทรดไม่ใช่เกณฑ์ในการตัดสินความถูกต้อง แต่การปฏิบัติตามกฎคือ" สิ่งเหล่านี้สามารถเป็นมาตรฐานที่เป็นวัตถุประสงค์ แต่สิ่งสำคัญคือคุณจะสามารถยอมรับและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการของคุณได้หรือไม่

ผู้เขียน

ไร้จิต