การตั้งคำถาม

ก่อนอื่นให้พิจารณาถึงคำถามนี้: เกมที่มีอัตราชนะ 60% หากมีเงิน 1000 บาทและมีโอกาสเดิมพัน 100 ครั้ง อัตราส่วน 1:1 แล้วจะวางเดิมพันอย่างไรเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด? ตามการสำรวจพบว่าคนทั่วไปมักจะมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการเดิมพันในสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวย และลดการเดิมพันในสถานการณ์ที่เอื้ออำนวย ในความเป็นจริงเมื่อสะท้อนกลับเข้าสู่ตลาด มักมีการคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นหลังจากการลดลงติดต่อกัน หรือการลดลงหลังจากการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน แต่สิ่งนี้เป็นเพียงอุบายของนักพนันเพราะโอกาสในการทำกำไรยังคงมีเพียง 60% ในตอนนี้ การจัดการเงินทุนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง

การตั้งสมมติฐาน

สมมุติว่าเริ่มต้นเกมด้วยเงิน 1000 บาท แต่เมื่อแพ้ติดต่อกัน 3 ครั้งเหลือเพียง 700 บาท คนส่วนใหญ่จะคิดว่าการเดิมพันในครั้งที่ 4 จะชนะ ดังนั้นจึงเพิ่มเดิมพันเป็น 300 บาท (เพื่อชดเชยการขาดทุน 300 บาท) แม้ว่าจะมีความน่าจะเป็นน้อยที่จะแพ้ติดกัน 4 ครั้ง แต่มันยังคงมีโอกาสเกิดขึ้น หากเหลือเพียง 400 บาท ก็ต้องทำกำไร 150% เพื่อชดเชยขาดทุน การทำเช่นนี้มีโอกาสน้อยมาก หากเพิ่มเดิมพันเป็น 250 บาท ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะล้มละลายหลังจากเล่น 4 ครั้ง

การจัดการเงินทุนคืออะไร?

การจัดการเงินทุนคือการควบคุมความเสี่ยงโดยการจำกัดสัดส่วนของเงินลงทุนในแต่ละครั้งในตลาดความเสี่ยง วิธีการจัดการเงินทุนขึ้นอยู่กับสไตล์การซื้อขายของคุณว่าจะมีความก้าวร้าวหรือมั่นคง การจัดการเงินทุนยังมีผลต่อความเรียบของกราฟมูลค่าสุทธิของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเงินทุนในลักษณะของพีระมิดหรือสัดส่วนที่เท่ากัน

ระบบการจัดการเงินทุน

ระบบการจัดการเงินทุนหมายถึงการกระจายตำแหน่งในแต่ละวัน ความถี่ในการซื้อขาย สัดส่วนตำแหน่งในการซื้อขายในกรณีเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าเงินทุนรวม รวมถึงกฎและเหตุผลในการเพิ่มหรือลดตำแหน่ง การกระจายตำแหน่งหมายถึงการแบ่งขนาดตำแหน่งตามโอกาสในสถานการณ์ที่แตกต่าง โดยไม่เพียงแต่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวในการตัดสินว่าสำเร็จมากหรือน้อย

หลักการจัดการเงินทุน

หลักการการจัดการเงินทุนขึ้นอยู่กับบุคคล ไม่ได้เป็นหลักการที่เหมาะสมตามหลักการทุกคน หลักเกณฑ์นี้ควรยึดประเมินจากความเสี่ยง ความผันผวน และความคาดหวังในผลตอบแทน รวมถึงนิสัยในการทำงานและลักษณะทางจิตใจของบุคคล ช่วงแนะนำของหลักการการจัดการเงินทุนได้แก่:

• กฎการเข้าซื้ออย่างปลอดภัย: ตำแหน่งทุกตำแหน่งต้องมีการปรับให้เป็นบวก
• กฎการไม่กังวล: หลังจากซื้อขายควรทำใจให้สงบ
• กฎการไม่เสียดาย: ต้องไม่รู้สึกเสียดายเมื่อต้องเผชิญกับผลลัพธ์ทุกประเภท
• กฎการลดความผันผวน: ผลตอบแทนที่มีเสถียรภาพ ควรมีมูลค่าสุทธิที่ผันผวนต่ำ
• กฎการพัฒนาแบบกลาง: ควรหาสมดุลระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง

วิธีการจัดการเงินทุน

ต้องทำความเข้าใจว่า การจัดการเงินทุนไม่ได้มี“ดี” หรือ “ไม่ดี” อย่างเด็ดขาด แต่มีความหมายเมื่อเชื่อมโยงกับอัตราชนะของระบบการเทรดของคุณ จึงจะสามารถประเมินได้ แต่การซื้อหุ้น การจัดการเงินทุนต้องมีมาโดยตลอดเพราะว่าการจัดการเงินทุนจะกำหนดความราบเรียบของมูลค่าสุทธิของบัญชี

ตัวอย่างการจัดการเงินทุน

เพื่อให้เห็นภาพของการจัดการเงินทุนอย่างชัดเจน จะยกตัวอย่างสามกรณี:

• กรณีแรก: เงินทุนใหญ่ทำการสร้าง “เบาะกันกระแทก” โดยแบ่งเงินทั้งหมดเป็น 60% และ 40% สำหรับกลยุทธ์การลงทุนระยะสั้นและระยะกลาง
• กรณีที่สอง: แบ่งเงินลงทุนออกเป็นหกส่วน โดยแต่ละส่วนมีสามขั้น A, ขั้นแรกคือ 1 หน่วย คิดเป็น 1/6 ของเงินทุนทั้งหมด B, ขั้นที่สองคือ 2 หน่วย คิดเป็น 1/3 C, ขั้นที่สามคือ 3 หน่วย คิดเป็น 1/2
• กรณีที่สาม: สามารถแบ่งเงินทุนตามสภาวะตลาดด้วยการเพิ่มหรือลดตามแต่ละขั้น