สี่นิสัยที่ทำให้ขาดทุนและทำกำไร
นิสัยการขาดทุน
ความสำเร็จนั้นเป็นนิสัย ไม่จำเป็นต้องทำสิ่งที่ใหญ่โต แต่ต้องทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ให้เป็นนิสัยที่ดี จนสำเร็จลุล่วง เช่นเดียวกับการลงทุนในตลาดหุ้นที่การทำกำไรและขาดทุนมาจากนิสัยในการซื้อขายของเราด้วย ด้านล่างนี้จะมีการนำเสนอนิสัยการขาดทุนและทำกำไรอยู่ 4 ข้อ มาดูว่ามันมีค่าเท่าไร
นิสัยการขาดทุน
การไม่ตัดขาดทุนจะทำให้คุณ “เสียชีวิต” ในตลาดหุ้น ยิ่งไม่ตัดขาดทุน ยิ่งจะถูก “ควบคุม” จนทำให้คุณขาดทุนหนักขึ้น เมื่อสถานการณ์ไม่ดีควรต้องถอนตัวทันที ซึ่งนี่ถือเป็นสัญญาณหลักแห่งการอยู่รอด นิสัยนี้จะทำให้คุณขาดทุนถึง -20% ทดลองนึกดูว่าถ้าคุณมีเงิน 10,000 บาท จะตกอยู่ที่ 2,000 บาท ว่านักลงทุนที่มีนิสัยนี้จะขาดทุนเกิน 20% หรือไม่
การตัดขาดทุนบ่อยครั้ง
นักลงทุนที่ซื้อหุ้นวันจันทร์และขายออกในวันอังคาร หรืออยากทำ T+0 การซื้อขายเป็นนิสัยที่แย่ หลับน้อยเพื่อรอทำการซื้อขาย การลงทุนเช่นนี้อาจทำให้รู้สึกว่าขายออกคือเนื้อแต่กลับมาซื้อในครั้งหน้าเป็นทองคำ สุดท้ายทองคำก็ถูกขายออกไป เนื้อกลับถูกขายมากกว่านั้น นิสัยนี้จะทำให้คุณขาดทุนถึง -30%
อยู่ในสถานะเต็มเสมอ
ความเสี่ยงสูงสุดในตลาดหุ้นคือการอยู่ในสถานะเต็มเสมอ ใช้เงินเต็มทุกวันโดยไม่มีจิตสำนึกว่าจะต้องว่างไว้บ้าง นักลงทุนที่ขาดทุนมักมีนิสัยอยู่เต็มสถานะตลอดเวลา โดยที่ในตลาดหุ้นจีนคุณจะทำกำไรได้จากการซื้อขาย แต่สถานะเต็มก็เป็นสาเหตุของความเสี่ยงสูงสุด นิสัยนี้ทำให้คุณขาดทุนถึง -20%
ข้อมูลหุ้นมากเกินไป
เมื่อคุณนั่งอยู่ในห้องซื้อขายหรือหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลา 4 ชั่วโมง แล้วยังต้องจ้องที่ตลาด 240 นาที เสียเวลาไปกับการไม่พักดื่มน้ำหรือเข้าห้องน้ำและพักกลางวัน การติดตามข้อมูลมากเกินไปจะทำให้คุณสูญเสียอิสระในการตัดสินใจ จนการขาดทุนกลายเป็นเรื่องปกติ นิสัยนี้สร้างความเสียหายถึง -10%
นิสัยการทำกำไร
การว่างกำไรเป็นนิสัยที่มีข้อดีสองข้อ คือจะไม่ขาดทุน และสามารถถอนเงินเมื่อไหร่ก็ได้ กล่าวคือ เงินในบัญชีคือของคุณ แม้ว่าคุณจะไม่ใช่นักลงทุน ก็ยังต้องจำประโยคที่มีชื่อเสียงในจีนว่า “ข้าวถึงปาก เงินถึงมือ” ในตลาดหุ้นที่ “ได้มากไม่ได้” เพียงแค่ไม่ขาดทุนก็หมายความว่าคุณยังอยู่ใน 1 ใน 3 นิสัยนี้สร้างผลตอบแทนถึง 30%
ทำกำไรแล้วค่อยซื้อเพิ่ม
การซื้อลงทุนในหุ้น ควรขายเมื่อทำกำไรแล้ว ถึงค่อยเพิ่มการลงทุน เพื่อแสดงว่าการวิเคราะห์แนวโน้มถูกต้อง ถ้าเกิดขาดทุนในการซื้อขายครั้งที่สาม ก็ต้องขายหุ้นทิ้งทั้งหมด อย่าหลงเชื่อในสัญชาตญาณ แต่ต้องเชื่อในความเป็นจริง เมื่อคุณขาดทุน แสดงว่าตลาดมีปัญหาหรือคุณมีปัญหา ต้องทำการเคลียร์หุ้น นิสัยนี้ทำให้คุณมีกำไรถึง 20%
คนเดี่ยวไม่ขอให้แตกต่าง
การทำกำไรของคนไม่กี่คนทำให้เราต้องมีความคิดที่แตกต่างจากผู้อื่น การซื้หุ้นที่คนอื่นมองข้าม หรือไม่กล้าที่จะลงทุนทำให้คุณเป็นผู้ชนะได้ เพราะคนทั่วไปไม่สามารถเป็นคนดังได้
พักผ่อน
การพักไม่จำเป็นต้องนอน แต่ต้องหยุดทำการซื้อขายหุ้นและอยู่ห่างจากตลาดในบางช่วง เป็นโอกาสที่จะเรียนรู้ สนุกกับตัวเอง หรือทำกิจกรรมอื่นๆ สถานที่ที่มาไกลจะนำมาซึ่งความสงบและเหตุผล นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จคือผู้ที่ไม่ใช่เพียงนักลงทุน อีกทั้งในเวทีอื่นๆ คุณก็ควรเป็นที่โดดเด่นด้วย นิสัยนี้สร้างกำไรประมาณ 20%
นับนิสัยขาดทุนของคุณ
ลองนับดูว่าคุณมีนิสัยการขาดทุนกี่ข้อและมีกี่ข้อในการทำกำไร จากนั้นคำนวณดูว่ามันเกี่ยวข้องกับผลกำไรที่แท้จริงของคุณหรือไม่
✅1 ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษา (EA) พร้อมกลยุทธ์พื้นฐาน
✅การสนับสนุนจำกัด (ทางอีเมลเท่านั้น)
✅การอัปเดต EA ฟรีเป็นเวลา 1 เดือน
✅เข้าถึงบทเรียนพื้นฐานสำหรับการตั้งค่า EA
✅ไม่มีการรับประกันกำไร
แพ็กเกจพื้นฐาน
ติดต่อเรา
แพ็กเกจพรีเมียม
✅ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (EA) 3 ตัวพร้อมกลยุทธ์ขั้นสูง
✅การสนับสนุนเต็มรูปแบบ 24/7 (ทางอีเมลและแชท)
✅อัปเดต EA ฟรีเป็นเวลา 3 เดือน
✅เข้าถึงบทเรียนขั้นสูงและวิดีโอการฝึกอบรม
✅รับประกันกำไร (ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด)
✅การวิเคราะห์รายสัปดาห์และคำแนะนำกลยุทธ์การเทรด
ติดต่อเรา
แพ็กเกจไดมอนด์
✅ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (EA)
5 ตัวพร้อมกลยุทธ์ระดับมืออาชีพ
✅การสนับสนุน VIP ตลอด 24/7
(ทางอีเมล, แชท และ Zoom Meeting)
✅อัปเดต EA ฟรีเป็นเวลา 6 เดือน
✅เข้าถึงบทเรียนทั้งหมด
(ตั้งแต่ระดับพื้นฐานถึงระดับมืออาชีพ)
✅รับประกันกำไรระยะยาว
✅การฝึกอบรมแบบส่วนตัว (1 ชั่วโมงทุกเดือน)
✅รายงานและวิเคราะห์ผลการทำงานของ EA รายวัน
✅ปรึกษากลยุทธ์การเทรดกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
ติดต่อเรา
ราคา: ฿23,000
ราคา: ฿9,200
ราคา: ฿3,100
การเทรดร่วมกับชุมชนของเราที่ cmatthai
คุณจะได้รับ EA ฟรีเมื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ cmatthai
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
เรื่องที่น่ารู้
Copyright 2024 cmatthai © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน