ระดับแรก: การศึกษาและวิจัยเรื่อง “รูป”

การศึกษาเรื่อง “รูป” รวมถึงกราฟ รูปแบบ แนวต้าน แนวรับ ช่องทาง เส้นค่าเฉลี่ย แนวโน้ม เป็นต้น สามารถเรียกว่าเป็นการวิเคราะห์เชิงเทคนิค ระดับต่ำของการซื้อขายนี้ สามารถเรียนรู้ได้จากการอ่านหนังสือ การเรียนกับอาจารย์ หรือการย้อนกลับไปทบทวน การศึกษาขั้นตอนนี้ค่อนข้างง่าย ขอเพียงแค่ความพยายามเพียงเล็กน้อยก็สามารถไปถึงเป้าหมายได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์หรือประสบการณ์มากนัก ผู้ที่เรียนรู้ได้รวดเร็วสามารถทำได้ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน โดยไม่จำเป็นต้องศึกษาลงลึกในระดับสูง การศึกษาเรื่อง “รูป” จะช่วยให้เราได้รับข้อได้เปรียบในการซื้อขาย แต่ข้อได้เปรียบนี้ยังไม่เพียงพอที่จะต่อต้านการกัดเซาะระยะยาวของ “สเปรด” และ “ธรรมชาติของมนุษย์” ที่มีผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อการซื้อขาย ผู้ที่ทำการวิเคราะห์เชิงเทคนิคที่ยอดเยี่ยมในระยะยาว มักจะได้เพียงแค่เท่าทุนหรือมีกำไรเล็กน้อยเท่านั้น.

ระดับที่สอง: การศึกษาและวิจัยเรื่อง “แรง”

การศึกษาเรื่อง “แรง” หรือการสะสมประสบการณ์และความรู้สึกเกี่ยวกับตลาด เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งชี้ว่าผู้ทำการตลาดได้เข้าสู่ระดับที่สูงขึ้น การวิเคราะห์แบบต่อเนื่อง ผ่านการดูตลาดอย่างยาวนานและการใช้การใช้วิจารณ์อย่างมีเหตุผล จะทำให้คุณค่อยๆ รับรู้ถึงแนวโน้มในตลาดบางช่วง บางครั้ง คุณสามารถรับรู้ถึงจังหวะการเคลื่อนไหวหลักในตลาด และความปรารถนาของเงินทุนหลักที่เคลื่อนที่ภายใน โดยสัญชาตญาณในเรื่อง “แรง” นี้ยากที่จะใช้คำพูดอธิบายออกมาได้ มันเป็นผลผลิตจากประสบการณ์และแรงบันดาลใจ การศึกษาเรื่อง “แรง” จะช่วยเพิ่มข้อได้เปรียบในการซื้อขายของคุณ โดยเฉพาะในระยะกลางและการประเมินแนวทางที่จะไปข้างหน้า การวิเคราะห์เชิงเทคนิคสามารถค้นพบทางเลือกในการซื้อขายได้ แต่ “แรง” จะช่วยให้เราทราบชัดเจนยิ่งขึ้นว่าทางเลือกใดที่ควรเข้าร่วมและทางเลือกใดที่ควรละทิ้ง “แรง” จะมีบทบาทสำคัญต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของการซื้อขายในระยะยาว “แรง” เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้จากคนอื่น ต้องปฏิบัติจริง สั่งสมประสบการณ์โดยไม่ลดละ ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อวันในการดูตลาดตลอดหนึ่งปี หากไม่มีความรักในอาชีพการค้า ยากที่จะทำเช่นนี้.

ระดับที่สาม: ความเข้าใจและการควบคุมธรรมชาติของมนุษย์

ความไม่แน่นอนของธรรมชาติของมนุษย์เปรียบได้กับความไม่แน่นอนของตลาด การเคลื่อนไหวของตลาดเป็นการตรงข้ามกับธรรมชาติของมนุษย์ การดำเนินการที่ถูกต้องของเราในระดับใหญ่ ก็ส่วนมากเป็นการตรงข้ามกับธรรมชาติ บางครั้งเรารู้ว่าควรถือหุ้นต่อไปแต่กลับทำกำไรออกมา รู้ว่าควรออกจากตลาดโดยเด็ดขาด แต่กลับติดอยู่ในสถานการณ์ที่ลึกเข้าไป ซึ่งเหตุผลหลักคือในช่วงนั้น เราต่อต้านตลาดและตามธรรมชาติของมนุษย์ ธรรมชาติของมนุษย์มีผลกระทบอย่างใหญ่มากต่อการซื้อขาย เราจำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ทั่วไปและของตัวเราเองอย่างเต็มที่ ขั้นแรกเราต้องปรับเปลี่ยนธรรมชาติของเราจากพื้นฐานจิตใจให้สอดคล้องกับตลาด ขั้นตอนที่สองคือการหาสถานการณ์ วิธีการ หรือกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธรรมชาติของเรา เพื่อทำกำไร ซึ่งหมายถึงการปรับเปลี่ยนและการเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ เป็นกระบวนการเรียนรู้ ศึกษา ฝึกฝน และควบคุมอย่างยาวนาน เมื่อคุณสามารถเข้าใจธรรมชาติและควบคุมธรรมชาติได้อย่างสมบูรณ์ การซื้อขายจะเข้าสู่ระดับที่สูงขึ้น และเมื่อประสบความสำเร็จ การซื้อขายก็อาจกลายเป็นเรื่องที่ง่ายและเป็นไปตามที่ใจหวัง!

การเข้าถึงความเข้าใจในระดับต่างๆ

ในความคิดส่วนตัวของฉัน เชื่อมั่นในตัวเองว่าตนอยู่ในระดับเริ่มต้นของระดับที่สาม ยังต้องทำงานหนักต่อไป ส่วนใหญ่ของผู้คนมักจะอยู่ในระดับแรก ตรงกับการศึกษาเรื่อง “รูป” มีการสัมผัสถึงระดับที่สองและสามบ้าง แต่สองขั้นนี้ไม่ได้ให้ข้อได้เปรียบที่แท้จริงแก่พวกเขา แค่สัมผัสในอารมณ์ก็ตาม นี่คือความเข้าใจที่แสเผนของฉันต่อการซื้อขาย อาจไม่ถูกต้อง หากคุณเห็นด้วยกับความคิดเห็นของฉัน คุณควรมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับความยากลำบากของความสำเร็จในระยะยาว การทำให้สำเร็จนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก นี่คือเหตุผลที่ทำให้ฉันไม่แนะนำให้คนอื่นลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์.