แนวทางการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ

“วิธีการทำงานของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จคือการไม่ทำอะไรเลย รอจนกว่าคุณจะเห็นเงินอยู่ที่นั่น อยู่ในมุมห้อง คุณต้องทำเพียงแค่เดินไปและเก็บเงินขึ้นมา นี่คือหนทางในการลงทุน” คำนี้มีที่มาจากหนังสือของนักลงทุนชื่อดัง จิม โรเจอร์ส ที่ชื่อว่า “การลงทุนเสี่ยงเดินทางรอบโลก” เหมือนที่กล่าวว่า ความสูงสุดของการลงทุนคือการเก็บเงิน ซึ่งการเก็บเงินนั้นแทบจะไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงอะไรเลย ในมุมมองของคนทั่วไป สิ่งนี้ดูเหมือนจะไร้สาระ เพราะมันขัดแย้งกับความเข้าใจว่า “ผลตอบแทนการลงทุนและความเสี่ยงต้องมีความสมดุล” แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลตอบแทนจากการลงทุนและความเสี่ยงนั้นไม่สมดุลกันจริงๆ

การมองการลงทุนจากมุมมองใหม่

เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้ คุณจำเป็นต้องมองการลงทุนจากอีกมุมหนึ่ง—อัตราโอกาส การลงทุนที่แท้จริงคือเกมของอัตราโอกาส ซึ่งเกี่ยวข้องกับอัตราโอกาสสองประเภท: อัตราการชนะ และอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน อัตราการชนะ คือสัดส่วนของโปรเจ็กต์การลงทุนทั้งหมดที่ทำกำไรได้ ในขณะที่อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน หมายถึงอัตราส่วนของความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนแต่ละครั้งและผลตอบแทนที่คาดหวัง ซึ่งสิ่งที่การลงทุนมุ่งหวังคือการมีอัตราการชนะที่สูงขึ้นและอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนที่ต่ำลง

แนวทางในการเดิมพันเพื่อเพิ่มอัตราการชนะ

สำหรับการ “เก็บเงิน” แล้ว อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนแน่นอนว่าต่ำมาก ในขณะที่นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จะลงทุนในโปรเจ็กต์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และทำให้เขามีอัตราการชนะที่สูง ในที่สุดก็สร้างสรรค์นักลงทุนที่โดดเด่นอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ และ จอร์จ โซรอส แน่นอนว่าการเล่นเกมของอัตราโอกาสนั้นไม่ง่ายเลย บางที นี่อาจเป็นเป้าหมายของนักเทรดจำนวนมากรวมทั้งตัวผมเองตลอดชีวิต แต่โชคดีที่หลังจากมีชีวิตการเทรดมา 6 ปี ผมก็ได้เรียนรู้บางอย่างที่มีค่า ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มอัตราการทำกำไร

ประเมินความสามารถของตนเอง

ประการแรก คุณต้องรู้ตำแหน่งของตัวเอง มีคำพูดที่ดีมากว่า “ในเกมไพ่ ถ้าภายในครึ่งชั่วโมงคุณยังไม่พบว่าใครคือคนโง่ ก็อาจจะเป็นคุณที่คือคนโง่” เช่นเดียวกัน ในตลาดการลงทุน ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการลงทุน ดังนั้น ก่อนที่จะลงทุน คุณต้องประเมินทัศนคติในการลงทุนและความสามารถของคุณ ถ้าผลลัพธ์ไม่ดี ก็อาจจะดีที่สุดที่ค้นหาผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาช่วย

การวิจัยคือกุญแจแห่งความสำเร็จ

ประการที่สอง การวิจัยคือการตัดสินความสำเร็จ บนพื้นโลกอาจมีสิ่งต่างๆ มากมาย แต่หลายอย่างก็เป็นเพียงกระดาษที่ไม่มีค่า และแม้กระทั่งขยะที่เป็นอันตราย บางครั้งอาจมีสินทองจริงๆ แต่คุณต้องทำการวิจัยอย่างครบถ้วนก่อน ตั้งแต่คุณรู้ว่ากองกระดาษนั้นคือเงิน คุณจึงจะสามารถเก็บเงินได้ ประสบการณ์ของฉันบอกว่าต้องทำเฉพาะในสาขาที่คุณคุ้นเคย อีกทั้งต้องพัฒนาความสามารถในการวิจัยในสาขานั้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ

โอกาสในการเก็บเงิน

จำได้ว่าปีที่แล้วมีโอกาสเก็บเงิน วันที่ 9 มกราคม 2008 ตลาดฟิวเจอร์สเซี่ยงไฮ้ เปิดตัวฟิวเจอร์สทองคำ ในวันเปิดตลาด ฉันนั่งอยู่ที่คอมพิวเตอร์ตั้งแต่เช้า โดยเริ่มราคาก่อนเวลา 8:55 น. ฉันตรวจสอบราคาตลาดและตกตะลึง เมื่อเกือบทุกช่องทางมีการขยายตัวสูงสุด ราคานี้สูงกว่าทองคำในประเทศมากกว่า 20 บาทต่อกรัม เนื่องจากได้ทำการวิจัยอย่างเพียงพอ ทำให้ฉันสามารถขายฟิวเจอร์สทองคำในประเทศเมื่อใกล้ถึงจุดต้าน ขณะเดียวกันซื้อทองคำจริงจากตลาดทองเซี่ยงไฮ้ และช่วงเวลาปิดตลาด ราคาฟิวเจอร์สและราคาจริงก็ห่างกันไม่เกิน 15 บาท ขณะที่ถึงกลางเดือนมีนาคม ราคาผลดลดลงเรื่อยๆ จนถึงศูนย์!

การเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม

สุดท้ายนี้ ควรเลือกวิธีการเทรดที่เหมาะกับตัวเอง ในตลาดฟิวเจอร์ส มีโมเดลการเทรดที่ประสบความสำเร็จหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดระยะสั้น การเทรดระยะกลาง-ยาวตามปัจจัยพื้นฐาน การเทรดระยะกลาง-ยาวตามเทคนิค หรือการทำ arbitrage การเลือกโมเดลไหนนั้น ควรพิจารณาจากบุคลิกภาพ ความสามารถการวิจัย ความคาดหวังผลตอบแทน และความสามารถในการรับความเสี่ยง ส่วนตัวชอบทำ arbitrage เพราะมันให้ความรู้สึกเหมือนเกมสนุกดี ทำให้ฉันสามารถเพลิดเพลินไปกับการเทรดในทุกวัน