การใช้ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ในการซื้อขายทองคำและข้อควรระวัง
การใช้ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ในการซื้อขายทองคำและข้อควรระวัง
บทนำเกี่ยวกับดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)
ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ถูกสร้างขึ้นโดยนักวิเคราะห์เทคนิคชื่อดัง เวลล์ส ไวลเดอร์ (Wells Wilder) และได้กล่าวถึงในหนังสือของเขา "แนวคิดใหม่ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค" ก่อนที่จะเรียนรู้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคใด ๆ นักลงทุนควรฝึกฝนพฤติกรรมที่ดีโดยเข้าใจในด้านคณิตศาสตร์อย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะช่วยให้เรียนรู้ได้ไม่ใช่แค่เชื่ออย่างหัวปักหัวปำ และยังสามารถนำไปปรับใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน เพื่อป้องกันไม่ให้กลายเป็นผู้แพ้ในตลาดการค้าที่เต็มไปด้วยข้อมูลเปลี่ยนแปลงนี้
 (1).jpg)
การประยุกต์ใช้ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) ในการซื้อขายทองคำ
ค่า RSI จะอยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 เสมอ โดยจะพิจารณาปัจจัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคา 4 ประการ: จำนวนวันที่ขึ้นราคา, จำนวนวันที่ลงราคา, ขนาดการเพิ่มขึ้น และขนาดการลดลง เนื่องจากการพิจารณาปัจจัยทั้ง 4 ทำให้ RSI มีความแม่นยำในการคาดการณ์แนวโน้มราคา โดยทั่วไปเราควรจับตาดูระดับ 30 และ 70 หาก RSI ตกลงต่ำกว่า 30 จะหมายถึงโอกาสสูงที่ตลาดจะเกิดสัญญาณขายเกินกำลัง และอาจมีโอกาสที่ราคาจะกลับตัว จากการลดราคาไปเป็นราคาเพิ่มขึ้น ในทำนองเดียวกัน หาก RSI ขึ้นเหนือ 70 จะหมายถึงโอกาสสูงที่ตลาดจะเกิดสัญญาณซื้อเกินกำลัง และอาจมีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวจากการเพิ่มขึ้นไปเป็นลดลง
ข้อควรระวังเมื่อใช้ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI)
1) เมื่อ RSI เคลื่อนที่อยู่ระหว่าง 30 ถึง 70 ดัชนีนี้อาจจะไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งเมื่อไร้ประสิทธิภาพก็แสดงว่าไม่มีค่าอ้างอิง
2) บางครั้ง RSI อาจแสดงสัญญาณความชะงักงัน อาจจะเกิดขึ้นหลังจากราคากลับตัว ดังนั้นควรใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ และการวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อทำการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ
3) เมื่อไม่มีแนวโน้มกระทิงหรือหมีอย่างชัดเจน และราคาขยับอยู่ในช่วงแคบ ความน่าเชื่อถือของ RSI จะลดลง ควรพิจารณาใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่น ๆ เช่น ตัวบ่งชี้ Stochastic Oscillator
RSI มีวิธีการนำไปใช้งานที่หลากหลาย เช่น การใช้ RSI2 หรือการบ่งชี้ Golden Cross และ Death Cross ต่าง ๆ ซึ่งจะมีการเผยแพร่การใช้งานที่ซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ กรุณาเฝ้าติดตาม!
การใช้ RSI แบบขั้นสูง: การแยกแยะ (Divergence)
เมื่อทิศทางราคาขัดแย้งกับทิศทาง RSI นั่นคือสิ่งที่เรียกว่าการแยกแยะ ซึ่งแบ่งออกเป็นการแยกแยะด้านบน (Top Divergence) และการแยกแยะด้านล่าง (Bottom Divergence)
การแยกแยะด้านล่าง: ในแนวโน้มที่ลง ราคาใหม่จะต่ำกว่า แต่ RSI จะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่คงที่หรือสูงกว่า การแยกแยะด้านบน: ในแนวโน้มขึ้น ราคาใหม่จะสูงกว่า แต่ RSI จะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่คงที่หรือต่ำกว่า การปรากฏตัวของการแยกแยะถือเป็นตัวบ่งชี้ที่มีพลังในการเปลี่ยนทิศทางราคา
การแยกแยะขั้นสูงและการแยกแยะแบบครั้งเดียว เกิดขึ้นบริเวณระดับ 70 ของ RSI สัญญาณ ณ ขณะนั้นถือว่าไม่แรงเกินไปและไม่น่าอ่อนแอ การตัดสินใจในการทำธุรกรรมจึงขอแนะนำให้พิจารณาผลการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น
✅1 ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษา (EA) พร้อมกลยุทธ์พื้นฐาน
✅การสนับสนุนจำกัด (ทางอีเมลเท่านั้น)
✅การอัปเดต EA ฟรีเป็นเวลา 1 เดือน
✅เข้าถึงบทเรียนพื้นฐานสำหรับการตั้งค่า EA
✅ไม่มีการรับประกันกำไร
แพ็กเกจพื้นฐาน
ติดต่อเรา
แพ็กเกจพรีเมียม
✅ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (EA) 3 ตัวพร้อมกลยุทธ์ขั้นสูง
✅การสนับสนุนเต็มรูปแบบ 24/7 (ทางอีเมลและแชท)
✅อัปเดต EA ฟรีเป็นเวลา 3 เดือน
✅เข้าถึงบทเรียนขั้นสูงและวิดีโอการฝึกอบรม
✅รับประกันกำไร (ขึ้นอยู่กับสภาพตลาด)
✅การวิเคราะห์รายสัปดาห์และคำแนะนำกลยุทธ์การเทรด
ติดต่อเรา
แพ็กเกจไดมอนด์
✅ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (EA)
5 ตัวพร้อมกลยุทธ์ระดับมืออาชีพ
✅การสนับสนุน VIP ตลอด 24/7
(ทางอีเมล, แชท และ Zoom Meeting)
✅อัปเดต EA ฟรีเป็นเวลา 6 เดือน
✅เข้าถึงบทเรียนทั้งหมด
(ตั้งแต่ระดับพื้นฐานถึงระดับมืออาชีพ)
✅รับประกันกำไรระยะยาว
✅การฝึกอบรมแบบส่วนตัว (1 ชั่วโมงทุกเดือน)
✅รายงานและวิเคราะห์ผลการทำงานของ EA รายวัน
✅ปรึกษากลยุทธ์การเทรดกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
ติดต่อเรา
ราคา: ฿23,000
ราคา: ฿9,200
ราคา: ฿3,100
การเทรดร่วมกับชุมชนของเราที่ cmatthai
คุณจะได้รับ EA ฟรีเมื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกของ cmatthai
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
เรื่องที่น่ารู้
Copyright 2024 cmatthai © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น