เกริ่นนำ

แกรี่ เบฟเฟิร์ดเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดฟิวเจอร์สของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เขามีทุนทรัพย์มากมายในการซื้อขายในตลาดฟิวเจอร์สซึ่งมีนักลงทุนองค์กรเป็นหลักได้อย่างไร? เบฟเฟิร์ดเริ่มต้นการเทรดฟิวเจอร์สเมื่อ 25 ปีก่อน ด้วยเงินทุน 1,000 ดอลลาร์ เขาเริ่มจากการซื้อขายฟิวเจอร์สข้าวโพดและสร้างความมั่งคั่งที่น่าชื่นชมขึ้นมาอย่างช้าๆ เบฟเฟิร์ดไม่เคยเชื่อในการกระจายการลงทุน โดยมีปรัชญาการเทรดคือ การเลือกสินทรัพย์หนึ่งสินทรัพย์และศึกษาลงลึกจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ในประวัติการเทรดของเขา ตลาดถั่วเหลืองและธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นจุดสนใจหลัก.

การเริ่มต้นของการเป็นนักเทรดมืออาชีพ

แม้ว่าเบฟเฟิร์ดตั้งเป้าที่จะเป็นนักเทรดเต็มเวลา แต่เนื่องจากเงินทุนน้อย เขาจึงทำงานเป็นนักเทรดพาร์ทไทม์ในบริษัทนายหน้าขนาดเล็ก ปัญหาที่เขาต้องเผชิญคือการเปลี่ยนจากนักเทรดพาร์ทไทม์ที่ขาดแคลนทุนเป็นนักเทรดมืออาชีพที่มีทุนมาก เบฟเฟิร์ดมีความโลภอย่างมากที่จะเป็นนักเทรดมืออาชีพ ความปรารถนาที่รุนแรงนี้ทำให้เขาพร้อมที่จะรับความเสี่ยงที่มากขึ้นเพื่อให้ได้เงินทุนที่ต้องการ ในปี 1965 เบฟเฟิร์ดอิงตามความเข้าใจของตนเกี่ยวกับตลาดถั่วเหลือง และความคิดเห็นจากอาจารย์เศรษฐศาสตร์การเกษตรของเขา ตัดสินใจซื้อสัญญาถั่วเหลือง 20 สัญญาเสียหมดหน้าตัก.

การวิเคราะห์และต่างอย่างระมัดระวัง

ช่วงแรก ราคาถั่วเหลืองลดลง และเบฟเฟิร์ดเกือบล้มละลาย แต่เขายังคงอดทนและรอจนราคาถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเบฟเฟิร์ดขายสัญญานี้ออกไป มูลค่าทรัพย์สินของเขาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า การทำธุรกรรมที่ประสบความสำเร็จนี้ช่วยให้เขาเข้าใกล้เป้าหมายการเป็นนักเทรดเต็มเวลา ตั้งแต่นั้นมาพอร์ตการลงทุนของเบฟเฟิร์ดก็ดีวันดีคืน ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 ขนาดการเทรดของเขาเพิ่มขึ้นจนถึงระดับสูงสุดที่รัฐบาลสหรัฐกำหนดไว้ในการถือครองฟิวเจอร์สถั่วเหลืองและธัญพืช ส่งผลให้เขามุ่งสู่ตลาดฟิวเจอร์สของพันธบัตรรัฐบาลซึ่งไม่มีขีดจำกัดในการถือครอง

การพัฒนาและวิธีการวิเคราะห์ทางการค้า

ในปี 1983 ตลาดถั่วเหลืองที่ล้มเหลวสำหรับเบฟเฟิร์ดกลายเป็นจุดเปลี่ยนในวงการค้าของเขา แต่เขายังสามารถเข้าสู่ตลาดฟิวเจอร์สพันธบัตรรัฐบาลเมื่อราคาตกลงต่ำสุดซึ่งทำให้เขามีตำแหน่งที่สำคัญในธุรกิจนี้ ตั้งแต่ปี 1984 ถึงต้นปี 1986 ตลาดฟิวเจอร์สพันธบัตรรัฐบาลมีการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องและเบฟเฟิร์ดจากการถือหุ้นระยะยาวไม่เพียงแต่บรรลุเป้าหมายการเป็นนักเทรดเต็มเวลา แต่ยังกลายเป็นหนึ่งในนักเทรดไม่กี่คนที่สามารถแข่งขันได้เท่ากับหน่วยงานองค์กร.

บทสรุปและข้อคิดเห็น

เบฟเฟิร์ดเป็นคนพูดน้อยและเก็บตัว วิธีที่เขาใช้ในการเทรดและวิเคราะห์ตลาดคือการใช้การวิเคราะห์วัตถุประสงค์ แต่เขาพบว่าการทำความเข้าใจในตลาดโดยรวมเป็นเรื่องยาก ดังนั้นเขาจึงพึ่งพาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดของการวิเคราะห์พื้นฐานและพัฒนาระบบติดตามแนวโน้ม เขาเชื่อว่าในการประสบความสำเร็จในตลาดการเรียนรู้วิธีการใช้ระบบการค้าเป็นสิ่งสำคัญ ก่อนอื่นควรออกแบบกลยุทธ์ทางการค้าที่สามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดและตั้งเป้าหมายระยะยาวในการรักษากำไร.