ความไม่สามารถทนได้

จริงๆแล้วรับไม่ไหว เมื่อเห็นคุณทำการซื้อขายโดยที่ไม่มีทิศทางตลอดทั้งวัน เหมือนแมลงวันไม่มีหัว แต่ไม่รู้จักคิดในระดับมหภาคเกี่ยวกับความสำเร็จหรือความล้มเหลวในการซื้อขาย ขอเปิดเผยความลับเล็กน้อย ฉันพนันได้เลยว่าผู้ค้าร้อยละแปดสิบสามารถวิเคราะห์แนวโน้มได้ ดังนั้น ตลาดจะกำจัดผู้ค้าตามแนวโน้มจำนวนมากเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการอยู่รอดของมันได้อย่างไร? คำตอบคือแบบนี้

แนวโน้มคืออะไร

1. เริ่มต้นเราต้องเข้าใจว่าแนวโน้มคืออะไร แนวโน้มคือการสรุปภาพกราฟอย่างง่าย เพื่อตัดสินว่ารูปกราฟขาขึ้นหรือลง มากกว่าร้อยละ 80 ของผู้ค้าที่ใช้หนังสือเรียนสามารถตัดสินทิศทางของรูปกราฟได้ แต่ปัญหาคือการเพียงแค่สามารถตัดสินทิศทางกราฟนั้นไม่เพียงพอ

การวิเคราะห์พื้นที่

2. รูปกราฟใด ๆ เราสามารถทำการวิเคราะห์พื้นที่ได้ พวกเขามีทิศทาง ช่วงความผันผวน และจุดศูนย์กลางเป็นสามองค์ประกอบในการซื้อขาย เราจำเป็นต้องมีการหยุดขาดทุน และการหยุดขาดทุนนี้จะต้องอยู่ข้างนอกช่วงความผันผวน

อัตราส่วนผลกำไรและขาดทุน

3. ในขณะนี้เงื่อนไขคือผู้ค้าที่ได้ตัดสินแนวโน้มถูกต้องและตัดสินทิศทางได้ถูกต้อง สำหรับผู้ค้าที่มองหาสัดส่วนผลกำไรและขาดทุน หากจุดเข้าของคุณอยู่เหนือจุดศูนย์กลางของกราฟ จะมีอัตราส่วนผลกำไรต่อขาดทุนเป็น 1:1 ในระยะยาว การหยุดกำไรของคุณจะมากกว่าการหยุดขาดทุน หากจุดเข้าของคุณอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางมากขึ้น อัตราส่วนผลกำไรต่อขาดทุนจะมากกว่า 1 ในระยะยาว คุณจะมีโอกาสชนะมากขึ้น แต่จุดเข้าจะลดน้อยลง หากจุดเข้าของคุณอยู่ต่ำกว่าจุดศูนย์กลาง อัตราส่วนผลกำไรต่อขาดทุนจะน้อยกว่า 1 ในระยะยาวคุณอาจสูญเสีย แม้จะทำตามแนวโน้ม

กลยุทธ์การซื้อขายแบบตาข่าย

4. มาดูอีกกลยุทธ์การซื้อขายหนึ่ง นั่นก็คือการซื้อขายแบบตาข่าย การซื้อขายแบบตาข่ายมีลักษณะคือหยุดกำไรเล็กน้อยแต่หยุดขาดทุนใหญ่ การซื้อขายตาข่ายตามแนวโน้มมีลักษณะคือหยุดกำไรในพื้นที่ล่างและไม่หยุดขาดทุนในพื้นที่บน การหยุดขาดทุนที่อยู่นอกช่วงความผันผวน ทำให้โอกาสในการหยุดกำไรมากกว่าหยุดขาดทุนมาก หากเป็นผู้ค้าที่ใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบตาข่ายถึงแม้ว่าจะทำตามแนวโน้ม แต่หากไม่สามารถเข้าร่วมเหนือจุดศูนย์กลางจะต้องสูญเสีย

การหยุดขาดทุนที่เกินไป

5. สามารถตัดสินแนวโน้มและสามารถเข้าร่วมเหนือจุดศูนย์กลางจะต้องชนะได้หรือไม่? คำตอบคือไม่ หากการหยุดขาดทุนของคุณเล็กเกินไป ไม่สามารถอยู่ข้างนอกช่วงความผันผวนของกราฟ หรือเลือกกราฟที่มีช่วงความผันผวนมากกว่าการหยุดขาดทุน คุณยังคงจะสูญเสีย ดังนั้นเงื่อนไขในการชนะคือคุณต้องมีความสามารถในการวิเคราะห์ช่วงความผันผวนของกราฟอย่างเพียงพอและการหยุดขาดทุนที่เพียงพอ ถ้าการหยุดขาดทุนเล็กเกินไป คุณจะสูญเสียตลอดไป หลายคนหลงทางในทางนี้ ดังนั้นไม่มีโอกาสที่จะชนะ สุดท้าย การหยุดขาดทุนหมายถึงความสามารถในการเพิ่มกำไรในอนาคต ตลาดมีการควบคุมขนาดของการหยุดขาดทุน

ความล้มเหลวในตลาด

6. เนื่องจากมีการกระจายราคาขั้นต้น หากช่วงความผันผวนของกราฟเล็กเกินไป จุดศูนย์กลางจะอยู่ใกล้กับจุดขอบมากเกินไป ดังนั้นโอกาสของคุณที่จะเข้าร่วมเหนือจุดศูนย์กลางจะต่ำเกินไป ดังนั้นการซื้อขายถี่เกินไปและการซื้อขายระยะสั้นไม่สามารถชนะได้ เว้นแต่คุณจะสามารถค้นพบข้อบกพร่องในตลาดและใช้งานได้อย่างแม่นยำ

ความสามารถในการเกิดกราฟใหม่

7. กราฟคืออะไร? กราฟคือผลลัพธ์ของพฤติกรรมการซื้อขายของผู้เข้าร่วมตลาด ในแต่ละกราฟ มีกฎในการสร้างตัวเอง และทุกกราฟมีโอกาสที่จะกลายพันธุ์ การมีรูปแบบมาตรฐานของกราฟจะมีโอกาสเกิดขึ้น ถ้าคุณจะมีอายุยืนอยู่ในตลาดปัจจัยที่ทำให้คุณอยู่ในตลาดได้คือคุณมีความสามารถในการเข้าใจกราฟที่มีอยู่ และสามารถเข้าใจการเกิดกราฟใหม่ หากผู้ค้ากราฟไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของกราฟ แล้วยังไม่เข้าใจกราฟใหม่ในอนาคต เขาจะต้องพบกับความตาย

สรุปความล้มเหลวของการซื้อขายตามแนวโน้ม

หมายเหตุ: บทความนี้มาจากเครือข่าย มีแนวคิดคล้ายกับ "มุมมองการเก็งกำไรในระดับมืออาชีพ" ควรกลับไปพิจารณา และบอกความตายของการซื้อขายตามแนวโน้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความล้มเหลวจากการติดตามแนวโน้ม แต่ส่วนใหญ่ผู้ที่ทำตามแนวโน้มจะมีโอกาสล้มเหลวมากมาย ความคิดเห็นของฉันง่ายมาก คุณควรถอยออกจากตลาดให้มากที่สุด