1. ความหมายของแผนการเทรด

แผนการเทรดคือมาตรการ วิธีการ และขั้นตอนที่ผู้เทรดกำหนดขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายการเทรดในระยะเวลาหนึ่ง ตามที่ผู้เขียน การซื้อขายที่มีโอกาสสูง ได้กล่าวไว้ แผนการเทรดเปรียบเสมือนแผนธุรกิจของนักธุรกิจ เนื้อหาของแผนต้องชัดเจนและแน่นอน ถึงแม้มันไม่จำเป็นต้องเป็นเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษร แต่เพื่อให้ปฏิบัติตามแผนได้ดีขึ้น และสะดวกต่อการประเมินผลเป็นระยะ จึงแนะนำให้ผู้เทรดใช้รูปแบบเอกสารลายลักษณ์อักษร。

2. ลักษณะของแผนการเทรด

อันดับแรก แผนจะต้องมีการมองการณ์ไกล เราจัดทำแผนการเทรดเพื่อตอบสนองต่ออนาคต ดังนั้นก่อนที่จะจัดทำแผนต้องมีความเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ต้องมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเป้าหมาย วิธีการ และมาตรการการเทรด จึงกล่าวได้ว่า หากไม่มีมุมมองก็ไม่มีแผน การมองการณ์ไกลคือคุณสมบัติหลักของแผน。

ประการที่สอง แผนจะต้องมีขั้นตอนที่ชัดเจน ในการจัดทำแผนการเทรด จะต้องมีการกำหนดความสำคัญว่า ควรเริ่มจากอะไรแล้วต่อด้วยอะไร มีการจัดกำหนดเวลาที่รัดกุมและข้อกำหนดต่าง ๆ ในการดำเนินการตามแผนการเทรดจะต้องมีลำดับขั้นตอนและความสำคัญ ดังนั้น แผนการเทรดจะต้องมีข้อกำหนดด้านเวลาและการจัดการที่เกี่ยวข้องสำหรับแต่ละขั้นตอน เพื่อให้สะท้อนถึงความรัดกุมและลำดับขั้นตอนของแผนอย่างชัดเจน。

3. ส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องในแผนการเทรด

คุณจะเทรดในตลาดไหน? ใช้เครื่องมือวิเคราะห์ประเภทใด? สถานการณ์การวิเคราะห์ตลาดที่คุณเข้ามาเป็นอย่างไร? ข้อกำหนดสำหรับการเข้าซื้อขายคืออะไร? คุณจะรับความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด? กลยุทธ์การออกคืออะไร? คุณคาดหวังเวลาและผลการดำเนินงานอย่างไร? จะมีกระแสตลาดที่เป็นไปได้อย่างไรบ้าง? คุณจะบรรลุเป้าหมายการเทรดได้อย่างไร? สำหรับการเลือกตลาดการเทรด จะต้องพิจารณาจากความสามารถในการลงทุนและกลยุทธ์การเทรดของคุณ。

สำหรับเครื่องมือวิเคราะห์ คุณอาจใช้เครื่องมือทางเทคนิคบางประเภทหรือการวิเคราะห์พื้นฐาน แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เครื่องมือใด คุณจะต้องเข้าใจหลักการของเครื่องมือตัวนั้น และหลังจากศึกษาวิจัยและทดสอบอย่างเต็มที่แล้ว จึงจะนำมาใช้ได้。

ข้อกำหนดสำหรับการเข้าซื้อขาย

ข้อกำหนดสำหรับการเข้าซื้อขายหมายถึงสัญญาณในการเทรด จะต้องมีพื้นฐานที่แข็งแรงและมีเหตุผล ต้องชัดเจนและเรียบง่าย ไม่ควรมีความกำกวม และจะต้องผ่านการประเมินและทดสอบอย่างเต็มที่เช่นกัน คุณต้องเข้าใจว่าสัญญาณที่ประสบผลสำเร็จมีลักษณะอย่างไร และแนวโน้มของสัญญาณที่ล้มเหลวมีลักษณะอย่างไร。

ความเสี่ยงที่คุณจะต้องรับ

ในวงการเทรด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้วิธีปกป้องตัวเอง ดังนั้นก่อนการเทรดแต่ละครั้ง จำเป็นต้องชัดเจนเกี่ยวกับเงินทุนที่คุณจะลงทุนในแต่ละการเทรด ความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้จะอยู่ที่เท่าไหร่ กล่าวคือ หากคุณตัดสินใจผิดพลาด ความสูญเสียสูงสุดที่คุณสามารถรับได้คือจำนวนเท่าใด? และคุณสามารถแบกรับความสูญเสียนี้ได้หรือไม่? จะส่งผลกระทบต่อคุณในทางลบหรือไม่?

กลยุทธ์การออก

กลยุทธ์การออกรวมถึงสามด้านคือ หนึ่ง คือกลยุทธ์การออกเมื่อเกิดการตัดสินใจผิดกลยุทธ์ หรือกลยุทธ์การหยุดขาดทุน หนึ่งคือการออกจากการเทรดที่ประสบความสำเร็จเมื่อมีกำไร และอีกหนึ่งคือกลยุทธ์การออกเมื่อราคาที่เกี่ยวข้องไม่ขยับตามที่คุณคาดไว้ในระยะเวลาหนึ่ง ในที่นี้กลยุทธ์การหยุดขาดทุนเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดทั้งในด้านการวางแผนและการดำเนินการ การกำหนดจุดหยุดขาดทุนขึ้นอยู่กับความเข้าใจว่าคุณจะตัดสินใจผิดในสถานการณ์ใด ดังนั้น การทำความเข้าใจพื้นฐานของเครื่องมือการตัดสินใจจึงมีความสำคัญ。

กลยุทธ์การหยุดขาดทุนมีความยากเพราะเกี่ยวข้องกับการปฏิเสธการตัดสินใจในอดีตของคุณเอง และการยอมรับความสูญเสียทางการเงินนั้นชัดเจนว่านี่คือความท้าทายที่ใหญ่มากสำหรับนักเทรด ดังนั้นการดำเนินการหยุดขาดทุนจึงยากกว่าการออกจากการเทรดที่มีกำไร。

เวลาที่คุณคาดหวังสำหรับการดำเนินการและผลสัมฤทธิ์

เมื่อคุณเริ่มการเทรดครั้งหนึ่ง คุณจะต้องมีเป้าหมายในการเคลื่อนไหวราคาและเวลาที่คาดหวัง และความคาดหวังนี้จะมีความสำคัญต่อการติดตามของคุณในอนาคต.

พัฒนาการของตลาดจะมีความเป็นไปได้อย่างไรบ้าง

เราทราบดีว่าการพัฒนาของตลาดจะไม่แน่นอน ดังนั้นเราจำเป็นต้องมีการคาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในอนาคต เช่นเดียวกับการจัดการเงินทุน หากคุณสามารถเก็บความไม่แน่นอนของการพัฒนาเอาไว้ในใจเสมอ คุณจะไม่ดำเนินการลงไปในตลาดอย่างเต็มที่จะเพราะไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดจะไม่เกิดขึ้น กล่าวอีกอย่างหนึ่ง ความคาดหมายหลายด้านสามารถลดความเป็นไปได้ของการตัดสินใจที่เกิดจากอารมณ์และภาวะฉุกเฉินในการเทรดได้。