อุตสาหกรรมฟอเร็กซ์คืออุตสาหกรรมที่มีความกดดันสูงที่สุดในโลก

อุตสาหกรรมฟอเร็กซ์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีความกดดันสูงที่สุดในโลก โดยมักจะมีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งยังมีข้อเท็จจริงที่น่าสนใจซึ่งทำให้อุตสาหกรรมที่น่าเบื่อนี้มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น วันนี้เราจะพาคุณไปสำรวจหนึ่งในความสนุกสนานของอุตสาหกรรมฟอเร็กซ์กัน!

จนกระทั่งปี 1908 ธนาคารในสหรัฐอเมริกาสามารถพิมพ์เงินของตนเองได้

ในปี 1908 ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) จึงถูกก่อตั้ง ในช่วงก่อนหน้านั้นธนาคารใดๆในสหรัฐอเมริกาก็สามารถออกเงินของตนเองได้ เหตุการณ์นี้สะท้อนผลลัพธ์จากการขาดการควบคุมทางการเงินในประเทศ

ตลาดฟอเร็กซ์สมัยใหม่เริ่มต้นในปี 1973

การซื้อขายฟอเร็กซ์นั้นมีประวัติมานาน ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าการซื้อขายฟอเร็กซ์เริ่มขึ้นเมื่อใด แต่ตลาดฟอเร็กซ์สมัยใหม่เริ่มต้นในปี 1973 ซึ่งสอดคล้องกับการยกเลิกระบบเบรตตั้น วูดส์หลังสงครามโลกครั้งที่สอง และการมาถึงของยุคอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัว

ประวัติการซื้อขายฟอเร็กซ์สามารถย้อนกลับไปได้ถึงสมัยไบเบิล

หลายคนอาจจะคิดว่าประวัติศาสตร์ของตลาดฟอเร็กซ์ค่อนข้างสั้น แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าการซื้อขายฟอเร็กซ์เกิดจากการพัฒนาของการแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยที่ "ผู้แลกเปลี่ยน" มีการบันทึกตั้งแต่ในกฎหมายของชาวยิว และพวกเขายังเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากการแลกเปลี่ยนเหล่านั้นอีกด้วย

เหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

ในปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนที่ค่อนข้างเล็ก แต่ก็มีเหตุการณ์หนึ่งในประวัติศาสตร์ที่รุนแรงที่สุดในปี 2008 เมื่อเงินดอลลาร์ซิมบับเวตกอยู่ในภาวะสุดขีด โดยอัตราเงินเฟ้อสูงถึง 650,000,000,000% ทำให้หวังว่าในขณะนั้นคุณจะไม่มีการลงทุนในเงินซิมบับเว

ปริมาณการซื้อขายฟอเร็กซ์เฉลี่ยวันละทั่วโลกเท่ากับการซื้อรถจำนวนมาก

ในปี 2016 ปริมาณการซื้อขายฟอเร็กซ์เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 5.1 ล้านล้านดอลลาร์ สิ่งนี้เพียงพอที่จะซื้อรถยนต์ดีๆให้กับทุกครอบครัวในสหรัฐอเมริกาเป็นจำนวน 2 คัน

สหราชอาณาจักรเป็นตลาดฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่ใช้ทั่วไปในโลก หลายคนอาจคิดว่าสหรัฐอเมริกาเป็นศูนย์กลางการซื้อขายฟอเร็กซ์ แต่ที่จริงแล้ว 41% ของการซื้อขายฟอเร็กซ์ทั่วโลกเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีเพียง 19% เท่านั้น และประเทศอื่นๆรวมกันมีเพียง 40%

เงินปอนด์เคยครองตลาดฟอเร็กซ์ทั่วโลก

ในปัจจุบัน เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินที่มีปริมาณการค้าอยู่ในอันดับต้นๆ แต่สหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกที่มีอุตสาหกรรมที่พัฒนา และเคยมีอำนาจในระเบียบการเงินระหว่างประเทศ โดยเงินปอนด์เคยเป็นเงินตราที่ใช้ในการชำระเงินระหว่างประเทศอย่างแพร่หลาย ในต้นศตวรรษที่ 20 เงินปอนด์มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขายฟอเร็กซ์ถึงครึ่งหนึ่งทั่วโลกในปี 1913

เงินปอนด์/ดอลลาร์ถูกเรียกว่า "Cable"

คำว่า "Cable" ใช้เรียกคู่เงินปอนด์และดอลลาร์ เมื่อปี 1858 เทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารระหว่างประเทศยังไม่เกิดขึ้น อังกฤษและอเมริกาจึงต้องมีการเชื่อมต่อสายเคเบิล (Cable) ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเพื่อส่งข้อมูลทางโทรเลขระหว่างสองประเทศ จนถึงทุกวันนี้ สายเคเบิลเหล่านี้ยังคงทำหน้าที่ในการส่งข้อมูลการซื้อขายเงินตราระหว่างสองประเทศ ส่งผลให้เงินปอนด์/ดอลลาร์ถูกเรียกว่า "Cable"

นักเทรดฟอเร็กซ์ค้าส่งส่วนใหญ่ไม่สามารถทำกำไรได้ต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งปี

นักเทรดฟอเร็กซ์ทุกคนหวังจะทำกำไรในตลาดฟอเร็กซ์ แต่ส่วนใหญ่ไม่เก่งในการซื้อขาย จากการสำรวจ พบว่า 99.6% ของนักเทรดฟอเร็กซ์ค้าส่งไม่สามารถทำกำไรติดต่อกันได้เป็นเวลา 4 ไตรมาส

ธนาคารดอยซ์แบงก์เป็นผู้เล่นฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

แม้ว่าเยอรมนีจะเป็นตลาดฟอเร็กซ์ที่ค่อนข้างเล็ก แต่ธนาคารดอยซ์แบงก์กลับเป็นผู้เล่นที่ใหญ่ที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ทั่วโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดถึง 14.6% ขณะที่ธนาคารซิตี้กรุ๊ปตามมาเป็นอันดับสองที่ 12.3% และบาร์เซย์อยู่ที่ 11% ผู้เล่น 10 คนที่ดีที่สุดในโลกสามารถครอบครองส่วนแบ่งในตลาดฟอเร็กซ์ถึง 80%