ความสัมพันธ์แรกของเอซีโกดากับวงการเก็งกำไร

เอซีโกดาเริ่มต้นประสบการณ์ในวงการเก็งกำไรเมื่อเขาทำงานในบริษัทนายหน้าขนาดใหญ่ในตำแหน่งนักวิเคราะห์ โดยเขารับผิดชอบในการออกแบบระบบการซื้อขายด้วยคอมพิวเตอร์ เมื่อโปรแกรมที่เขาออกแบบได้แสดงผลลัพธ์ที่ดี บริษัทจึงได้โปรโมตให้กับพนักงานขายหลายร้อยคนและดึงดูดเงินหลายล้านดอลลาร์ให้มีการซื้อขายตามข้อมูลที่ระบบคอมพิวเตอร์ได้ให้ไว้

การตัดสินใจลาออกและเริ่มต้นธุรกิจใหม่

ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 เงินหลายล้านดอลลาร์ได้ถูกจัดการอย่างมากมาย แต่ผลการทดลองไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง ทำให้เอซีโกดาตัดสินใจลาออกและเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เหตุผลหลักคือการบริหารมักจะมองข้ามสัญญาณการซื้อขายที่ส่งออกจากคอมพิวเตอร์และตัดสินใจตามที่พวกเขาคิด เรียกได้ว่าทำให้การลงทุนสับสนวุ่นวาย

ตัวอย่างการตัดสินใจที่ผิดพลาด

ตัวอย่างเช่น เมื่อราคาน้ำตาลอยู่ที่ห้าเซนต์ต่อปอนด์ ระบบวิเคราะห์คอมพิวเตอร์ได้ส่งสัญญาณการซื้อให้ แต่การบริหารเห็นว่ามันเสี่ยง ไม่ควรซื้อ ต้องรอให้ราคาน้ำตาลลดลงอีกยี่สิบจุดก่อนถึงจะหามาซื้อได้ ในที่สุดราคาน้ำตาลก็ยังคงสูงขึ้น โดยที่ไม่มีโอกาสในการซื้อ และภายหลังการตัดสินใจรอควรตามราคาทั้งหมดก็ถูกมองข้าม พอราคาน้ำตาลผ่านเก้าสิบเซนต์ การตัดสินใจซื้อกลับเข้ามาอีกครั้งส่งผลให้เกิดความเสียหาย

การแก้ปัญหาภายในบริษัท

ถาม: ท่านตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนักวิเคราะห์เพราะอะไรนอกจากการทบทวนจากฝ่ายบริหารซึ่งทำให้ผลการลงทุนไม่ดี?
ตอบ: มีค่ะ ฝ่ายบริหารต้องการให้ฉันปรับแก้โปรแกรมการซื้อขายเพื่อให้เกิดการซื้อขายบ่อยขึ้น ซึ่งมันจะมีค่าคอมมิชชั่นมากขึ้น

อุปสรรคในการปรับโปรแกรม

ถาม: การปรับโปรแกรมนั้นเป็นงานที่ยากหรือไม่?
ตอบ: ง่ายมาก แต่ถ้าทำบ่อยโอกาสผิดพลาดก็มีมากขึ้น การทำตามที่ฝ่ายบริหารต้องการจะทำให้ผลการซื้อขายแย่ลง

การเข้าใจความรู้สึกของบริษัท

ถาม: บริษัทเข้าใจความรู้สึกของคุณหรือไม่?
ตอบ: ตรงกันข้ามเลย ฝ่ายบริหารยังคงต้องการให้ปรับโปรแกรม

ความรับผิดชอบต่อลูกค้า

ถาม: ท่านได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนักวิเคราะห์เพราะอะไร?
ตอบ: เพราะว่าฉันต้องการรับผิดชอบต่อลูกค้า ฉันจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปเป็นโบรกเกอร์ฟิวเจอร์ส โดยจัดการบัญชีไม่กี่บัญชี

ประสบการณ์ในการเป็นโบรกเกอร์

ถาม: การเป็นโบรกเกอร์นานเท่าไหร่?
ตอบ: รวมๆ แล้วก็แค่สองปี สุดท้ายก็ย้ายไปเป็นผู้จัดการกองทุน

เหตุผลในการเปลี่ยนกิจการ

ถาม: ทำไมถึงเปลี่ยน?
ตอบ: การเป็นโบรกเกอร์มักจะคิดถึงค่าคอมมิชชั่นมากกว่าลูกค้า ซึ่งมันไม่ยุติธรรม สำหรับผู้จัดการกองทุนต้องทรงพลังในการลงทุน ต้องพึ่งพาทักษะเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้ได้ค่าธรรมเนียมและเงินปันผล

การใช้โปรแกรมที่ออกแบบเอง

ถาม: ยังคงใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่คุณออกแบบเป็นหลักในการลงตลาดใช่ไหม?
ตอบ: ใช่ค่ะ แต่ต้องปรับปรุงตลอดเวลา

ผลการจัดการกองทุน

ถาม: สามารถเปิดเผยผลการจัดการกองทุนได้ไหม?
ตอบ: ผลการจัดการที่แท้จริง ฉันยังไม่อยากเปิดเผย แต่บัญชีหนึ่งโดยเฉพาะเริ่มต้นจากห้าพันดอลลาร์ในปี 1972 และหลังจาก16 ปีทำกำไรเกินสิบห้าล้านดอลลาร์ ซึ่งถ้านับรวมกับเงินที่เจ้าของบัญชีถอนออกมาตลอด รวมถึงผลการจัดการก็ดีมากขึ้น