บันทึกการถามตอบระหว่างผู้เขียนและเฮท

เฮทบริหารจัดการมีความโดดเด่นตรงที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริงแม้ในความเรียบง่าย ทำการอย่างเงียบๆ ตามแนวทางที่ได้กำหนดไว้ ไม่แสวงหาความตื่นเต้น แต่มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว สำหรับคำสั่งซื้อขายมีกฎสำคัญสามประการที่จะแนะนำดังนี้

คำถาม: ทำไมคนที่ไม่เข้าใจเรื่องกาแฟยังสามารถรอดพ้นจากตลาดใหญ่ แต่เทรดเดอร์ที่เรียกว่ารุ่นใหญ่กลับสูญเสียเงินถึงร้อยล้านดอลลาร์?

เฮท: นักเทรดใหญ่ไม่เข้าใจหรือมองข้ามปัญหาการบริหารความเสี่ยง ปัญหาความเสี่ยงที่จัดการไม่เหมาะสมจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ในครั้งเดียว

คำถาม: คุณจัดการกับหัวข้อการบริหารความเสี่ยงอย่างไร?

เฮท: นโยบายการจัดการกองทุนของบริษัทเราเป็นไปอย่างรอบคอบมาก ข้อแรกคือการซื้อขายแต่ละครั้งจะไม่สามารถสูญเสียเกินกว่า 1% ของมูลค่าสุทธิในบัญชี

คำถาม: ข้อจำกัดนี้อาจจะเข้มงวดเกินไปหรือเปล่า?

เฮท: ไม่ใช่ ตามกลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้น บริษัทเราอาจจะไม่มีผลงานที่น่าทึ่ง แต่สามารถจำกัดขาดทุนให้อยู่ต่ำกว่า 1% หากเกิดความผิดพลาดในแต่ละการซื้อขาย มันจะไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อภาพรวมทั้งหมด

คำถาม: จะทำอย่างไรให้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่แท้จริงในความเรียบง่าย?

เฮท: ใช่, ลดความเสี่ยงลงในขณะเดียวกันก็ต้องรักษาความมุ่งมั่น สำหรับผู้จัดการกองทุนนั้นเป็นกฎที่สำคัญมาก

คำถาม: คุณสามารถให้ตัวอย่างการเรียนรู้จากความผิดพลาดเพื่อชี้แจงได้หรือไม่?

เฮท: ผมรู้จักผู้จัดการกองทุนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง ซึ่งลูกค้าของเขาถอนเงินออกมาอย่างฉับพลันเกือบครึ่งหนึ่ง ผู้จัดการนั้นควรจะลดจำนวนการซื้อขายลง แต่เพื่อแสดงให้เห็นถึงตนเองเขาจึงไม่ลดจำนวนการลงทุน

คำถาม: ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?

เฮท: มูลค่าบัญชีลดลงอย่างรวดเร็วเหลือเพียง 20% ของยอดเงินเดิม

คำถาม: การบริหารความเสี่ยงสำคัญมากไม่ควรมองข้ามใช่ไหม?

เฮท: เป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุด การจัดการที่ไม่เหมาะสมสามารถทำให้ถูกขับออกจากตลาดได้ทุกเมื่อ

คำถาม: ขอถามข้อที่สองคืออะไร?

เฮท: ซื้อขายตามแนวโน้ม และไม่กระทำการที่ผิดกฎ

คำถาม: แนวโน้มเป็นเพื่อนของคุณเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว การตามสัญญาณจากคอมพิวเตอร์ในการเข้าตลาดไม่ใช่เรื่องง่าย

เฮท: พูดง่าย แต่จุดอ่อนของมนุษย์คือการชอบที่จะเด่นกว่าคนอื่น การกระทำแบบฮีโร่มักจะนำไปสู่การสูญเสียที่ไม่จำเป็น ดังนั้นคู่ค้าหลักของบริษัทเราจะต้องมีการเซ็นสัญญาที่ชัดเจนว่าต้องดำเนินการตามระบบการซื้อขายที่มีอยู่ ไม่อนุญาตให้มีข้อผิดพลาด

คำถาม: ผลการดำเนินงานในช่วงปีที่ผ่านมาเป็นอย่างไร?

เฮท: ผลการดำเนินงานเป็นที่ยอมรับได้ ทุกปีเรายังคงเติบโตอย่างมั่นคง ในความเป็นจริงตลอดหลายปีที่ผ่านมา บริษัทไม่เคยมีการซื้อขายที่แย่

คำถาม: การซื้อขายที่แย่หมายถึงอะไร?

เฮท: การซื้อขายสามารถแบ่งออกเป็นสี่ประเภท ได้แก่ ที่ได้กำไร, ขาดทุน, ดี และการซื้อขายที่แย่

คำถาม: ไม่ว่าจะเป็นแมวขาวหรือแมวดำ แมวที่สามารถทำเงินได้คือแมวที่ดี?

เฮท: ไม่ใช่ การซื้อขายที่ขาดทุนไม่จำเป็นต้องถือว่าลงทุนแย่

คำถาม: ไม่เข้าใจ กรุณาอธิบายเพิ่มเติมด้วย

เฮท: เช่น หากในครั้งหนึ่งการซื้อขายมีโอกาสชนะและแพ้ที่ 50-50 และอัตราต่อรองคือ 1 ต่อ 3 ก็สามารถถือว่าเป็นการซื้อขายที่ดีได้ แม้จะขาดทุนเราก็ไม่สามารถถือว่าการตัดสินใจนั้นแย่

คำถาม: กล่าวอีกนัยหนึ่ง นอกเหนือจากการซื้อขายตามแนวโน้ม อัตราส่วนความเสี่ยงจากผลตอบแทนเป็นข้อที่ต้องพิจารณาอย่างสำคัญ

เฮท: ตลาดการเก็งกำไรก็มีลักษณะเสี่ยงเช่นกัน อัตราต่อรองจะต้องได้รับการพิจารณาอย่างหนัก

คำถาม: หากคำนวณในระยะยาวจะเป็นประโยชน์หรือไม่?

เฮท: โดยหลักการประกัน จะผ่านการซื้อขายหลายครั้ง สถิติจะต้องเอื้ออำนวย เราสามารถกล่าวได้ว่าเรามั่นใจว่าจะชนะ

คำถาม: กฎข้อที่สามคืออะไร?

เฮท: เพื่อลดความเสี่ยง บริษัทเรามักจะแจกจ่ายการลงทุน

คำถาม: คุณจะแจกจ่ายการลงทุนอย่างไร?

เฮท: ประการแรก บริษัทเราซื้อขายสัญญาหลายประเภทมากกว่าบริษัทการจัดการกองทุนอื่น ๆ แน่นอน ประการที่สอง บริษัทเราไม่พึ่งพาระบบการซื้อขายอัตโนมัติใด ๆ

คำถาม: นี่ไม่ใช่การทำลายตนเองหรือ?

เฮท: ระบบการซื้อขายสามารถแบ่งออกเป็นระยะยาวและระยะสั้น โดยการผสมผสานให้เข้ากัน หลังจากที่มีการชดเชยกัน ก็จะใช้หลักการการประกันเพื่อพิชิต

คำถาม: นอกเหนือจากสามข้อที่กล่าวถึงแล้ว ยังมีเคล็ดลับอื่นอีกไหม?

เฮท: การตรวจสอบความผันผวนของตลาดก็อยู่ในกลุ่มการควบคุม

คำถาม: การผันผวนมากขึ้นไม่ใช่โอกาสในการทำกำไรหรือ?

เฮท: ความเสี่ยงก็มากขึ้นด้วย บริษัทเราไม่สนใจตลาดที่มีความเสี่ยงสูง

คำถาม: คุณจัดการอย่างไร?

เฮท: โดยทั่วไปสามารถแบ่งตลาดการซื้อขายออกเป็นสามประเภท ใช้สัญญาณไฟจราจรเปรียบเทียบ เมื่อมีไฟเขียวเข้าสู่ตลาดอย่างรวดเร็ว; ไฟเหลืองจะทำการปิดการซื้อขายตามสัญญาณจากคอมพิวเตอร์ แต่ไม่เปิดตำแหน่งใหม่; ไฟแดงจะปิดการซื้อขายและมองดูสถานการณ์

คำถาม: ขอให้นำเสนอกรณีตัวอย่างเพื่อเป็นหลักฐาน

เฮท: ในปี 1986 ราคากาแฟเพิ่มขึ้นจาก 1.30 ดอลลาร์เป็น 2.80 ดอลลาร์ก่อนที่จะลดกลับไปที่ระดับ 1 ดอลลาร์

คำถาม: ราคาที่ผันผวนอย่างมาก ย่อมทำให้ไฟแดงปรากฏตัว คุณจัดการการซื้อขายในมือตอนนั้นอย่างไร?

เฮท: เราขายตำแหน่งที่ดีออกไปที่ 1.70 ดอลลาร์และก็หยุดทำการซื้อขาย

คำถาม: กล่าวอีกนัยหนึ่งคือคุณพลาดโอกาสในการทำกำไรครั้งใหญ่?

เฮท: นโยบายของบริษัทเราคือการเติบโตในความมั่นคง ตลาดที่มีการผันผวนมากไม่ใช่วัตถุประสงค์การลงทุนที่เหมาะสม เราเลือกที่จะพลาดโอกาสดีกว่าการเสี่ยงโดยไม่จำเป็น นั่นคือกฎข้อแรกของบริษัท