การรู้จักการซื้อขาย

ในปี 2006 เนื่องจากผลการเรียนที่ไม่ดี จนในที่สุดฉันไม่สามารถเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้ หลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัย ฉันได้ผ่านการฝึกอบรมด้านวิชาชีพมากว่า 1 ปี จึงกลายมาเป็นโปรแกรมเมอร์! หลังจากจบการศึกษาฉันมาที่หนานจิงและได้งานที่อาจไม่เรียกว่าสวยงามซักเท่าไหร่ อีกนัยหนึ่งคือเป็น “แรงงานIT” แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับค่าเล่าเรียนหลายหมื่นหยวน หลังจากนั้นอยู่ในอาชีพนี้ประมาณปีหนึ่ง ก็เริ่มเกิดความคิดเกี่ยวกับอนาคตซึ่งเต็มไปด้วยความหวัง คนที่มีความคาดหวังอย่างฉันจะสามารถใช้ชีวิตไปแบบนี้ตลอดทั้งชีวิตได้อย่างไร? จึงเริ่มมีความคิดที่แปลกประหลาดซึ่งอาจนำไปสู่หายนะได้ ฉันเป็นแรงงานทั่วไปในช่วงเริ่มแรกจะทำอะไรได้? อย่างที่โบราณว่าไว้: “คนละสาขาก็คือคนละภูเขา” ดังนั้นจึงคิดจะพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นเองเสียเลย! พูดถึงแล้วก็ต้องทำ ไม่พูดเปล่า ฉันเป็นคนที่ทำงาน ซึ่งก็ได้ลาออกเพื่อไปทำงานคล่องตัวในการพัฒนาซอฟต์แวร์ พวกคุณอาจมองว่าฉันเป็นคนบ้าที่ทำแบบนั้น ทว่าในขณะนั้น มันมีคนบ้าอีกคนที่ตามฉันมาด้วย จึงต้องบอกว่านี่คือหายนะครั้งแรกของฉัน สุดท้ายแล้วก็ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน จนกระทั่งได้งานใหม่ฉันก็มีหนี้สิน 8000 หยวน ในตอนนั้นฉันมีเงินเก็บมากกว่า 40000 หยวนอยู่ในมือ แล้วค่อยๆ มองย้อนกลับไปประสบการณ์นี้ก็รู้สึกขบขันและบ้าคลั่งดีจริงๆ

เริ่มต้นการซื้อขาย

ถ้าไม่ใช่เพื่อที่จะยังชีพ ฉันคิดว่าคงจะไม่ทำอาชีพนี้อีกแล้ว การหางานที่มีความมั่นคงจากทักษะที่มั่นคงนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ฉันได้เข้าสู่ชีวิตการทำงาน 9-5 อย่างรวดเร็ว จนเมื่อถึงปลายปี 2010 ก็เข้าสู่หายนะครั้งที่สอง ทุกคนรู้ว่า QQ มีฟังก์ชัน “คนที่คุณอาจจะรู้จัก” ซึ่งทำให้ฉันบังเอิญพบกับเพื่อนเก่าจากมหาวิทยาลัย (นามสมมุติ อ่า หญิง) ที่ไม่ได้ติดต่อกันนาน เมื่อเราคุยกันหลายเรื่อง จนเธอเปลี่ยนงานและไปเริ่มที่บริษัทหลักทรัพย์ (รวมถึงการซื้อขายเงินตราต่างประเทศและโลหะมีค่า) เธอทำงานที่ไม่ต้องโทรหาลูกค้า วันหนึ่งเธอโพสต์ภาพหน้าจอการทำกำไรที่ตัวเองได้ และบอกว่าทำเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ ฉันรู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นมากจนได้ทราบว่าเธอทำการซื้อขายฟอเร็กซ์และทองคำ โดยลงสองคำสั่งซื้อแล้วก็ทำเงินได้หลายร้อยดอลลาร์ ที่นั่นเองที่ฉันได้เข้าสู่เส้นทางที่ไม่อาจหวนกลับแล้ว

ความฝันเริ่มต้นสู่การล่มสลาย

หลังจากที่ได้รู้จักการซื้อขายฟอเร็กซ์ ก็เริ่มทำการซื้อขายจำลองเหมือนคนอื่นๆ ต้องบอกว่าการซื้อขายเมื่อตอนนั้น ตลาดยุโรปและสหรัฐฯ ฉันก็ขาดทุนประมาณ 100 กว่าดอลลาร์ ฉันมีความคิดว่าตัวเองเป็นคนมีความยืดหยุ่นพอใช้และเรียนรู้ได้เร็ว ในเวลานั้นฉันซื้อหนังสือประมาณ 30 กว่าฉบับ ที่จำได้ดีที่สุดคือหนังสือที่มีปกสีแดงสดคือ "คู่มือการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ" เขียนโดยปีแอร์ อองโทนี่ ดูซอรีล แม้ว่าในที่สุดฉันจะไม่ค่อยจำเนื้อหาในหนังสือได้ แต่ฉันเรียนรู้มากมายตลอดทั้งปีและทดลองด้วยแผนทดลอง แต่ก็มีการขาดทุนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ระยะเวลาแห่งความหลงใหล

ในช่วงตรุษจีน 2011 ฉันก็เข้าสู่ช่วงที่หลงใหลในการค้าโดยไม่รู้ตัว คิดก็คิดอยู่เสมอว่าทำไมถึงขาดทุน คงเพราะปัญญาน้อย ไม่รู้ว่าจะอ่านหนังสือไหนดีจึงได้อ่าน "กราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น" และอ่านหนังสืออื่นๆ เพิ่มเติมซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่มีประโยชน์มากมาย เพียงแค่ลองอ่านๆ ไป ก่อนที่ฉันจะนำเงินมาอีก 800 แต่เมื่อเข้าร่วมการซื้อขาย ฉันสามารถประสบปัญหาใหญ่ในการขายและเดินตั้งหมื่นเพราะมีการขาดทุนที่น่ากลัวเกิดขึ้นซ้ำกันอีก

บทสรุป

การแปรผันของการลงทุนเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูง อย่างไรก็ตามการเรียนรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการค้าขายมีค่าในตนเอง ความตั้งใจอาจนำไปสู่ความสำเร็จ บทเรียนที่เรียนรู้ในตลาดฟอเร็กซ์ทำให้ฉันเข้าใจถึงหลักการที่สำคัญและควรรู้ว่าทุกการซื้อขายมีความหวังและความเสี่ยงเสมอ