ในปี 1602 บริษัทอินเดียตะวันออกของเนเธอร์แลนด์ (Dutch East India) เพื่อควบคุมการค้าสินค้ากลิ่นหอมในภูมิภาคตะวันออกไกล จำเป็นต้องมีการสนับสนุนเงินสดจำนวนมากสำหรับทีมเรือสินค้า ดังนั้น จึงได้ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกในโลกที่กรุงอัมสเตอร์ดัม จากนั้น ตลาดหลักทรัพย์กลางแจ้งอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam Bourse) ก็เริ่มมีการซื้อขายหุ้นและพันธบัตรของบริษัทอินเดียตะวันออก นักธุรกิจยังได้พัฒนาสัญญาทางการเงินที่มีเลือกรูปแบบแรกขึ้น ซึ่งช่วยให้นักลงทุนสามารถเดิมพันเกี่ยวกับการขึ้นและลงของหุ้นในอนาคตได้ บริษัทอื่นๆ ก็เริ่มออกหุ้นในตลาดหลักทรัพย์อัมสเตอร์ดัมเรื่อยๆ จนกระทั่งตลาดหลักทรัพย์อัมสเตอร์ดัมได้ย้ายเข้าที่อาคารในปี ค.ศ. 1611
ตลาดหลักทรัพย์อัมสเตอร์ดัมมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นต้นแบบของศูนย์การเงินสมัยใหม่ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินสามารถช่วยเหลือบริษัทต่างๆ ในการระดมทุนได้ ในช่วงเวลานั้นที่ตั้งของตลาดถือเป็นสิ่งสำคัญ แม้กระทั่งถึงปัจจุบัน ตลาดหลักทรัพย์ยังตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ที่สำคัญของโลก
ตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญที่สุดในโลกมีการประเมินผลทุกหกเดือนเริ่มตั้งแต่ปี 2007 โดย Z/Yen Group ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่มีชื่อเสียงในชื่อดัชนีศูนย์การเงินโลก (Global Financial Centres Index) ดัชนีนี้ใช้เกณฑ์ในการประเมินจากชื่อเสียงของตลาด สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ การพัฒนาของอุตสาหกรรมการเงิน โครงสร้างพื้นฐาน และทรัพยากรมนุษย์
การจัดอันดับของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนลดลงเนื่องจากการที่ธนาคารอังกฤษได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การจัดการอัตราดอกเบี้ย (LIBOR) ซึ่งทำให้ชื่อเสียงได้รับความเสียหายอย่างมาก และการที่ธนาคารกลางของอังกฤษถูกเกี่ยวข้องในเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนก็ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง นอกจากนี้ การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษที่กำลังจะมาถึงยังเกี่ยวข้องกับความไม่แน่นอนของการอยู่หรือไปในเขตยูโรโซน
ศูนย์การเงินที่สำคัญในเอเชีย เช่น เซี่ยงไฮ้, โซล, กัวลาลัมเปอร์, ฮ่องกง และสิงคโปร์ เป็นข่าวดีในช่วงเวลานี้ อย่างไรก็ตาม นิวยอร์กและลอนดอนจะยังคงครองศูนย์กลางความเป็นผู้นำทางการเงินไว้ในอนาคตที่สามารถคาดการณ์ได้
ในอีก 25 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีศูนย์การเงินเกิดขึ้นมากมายทั่วโลก โดยนอกจากตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ในนิวยอร์ก ลอนดอน และฮ่องกงแล้ว ยังคาดว่าจะมีศูนย์การเงินเล็กๆ ที่เกิดจากอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น แคลกะรีในแคนาดา ที่เติบโตจากอุตสาหกรรมพลังงาน; ปูซานในเกาหลีใต้ที่จะมีแนวโน้มทางอุตสาหกรรมทางทะเล และไนโรบีในเคนย่า ซึ่งเป็นตลาดทุนสำคัญในแอฟริกา
2024-11-13
Richard Dennis is a legendary figure in the US futures market known for his significant success in trading, utilizing trend-following principles, risk management, and training others to achieve success.
Richard Dennisfuture tradingForexrisk managementtechnical analysismarket psychology
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
เรื่องที่น่ารู้
cmatthai คือเว็บไซต์ที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับตลาด Forex และ Cryptocurrency เช่น Bitcoin, Ethereum, XRP, Litecoin และ Dogecoin รวมถึงข้อมูลข่าวสารที่อัปเดตอย่างรวดเร็วทันทุกการเคลื่อนไหวในตลาดเหล่านี้
เราไม่สนับสนุนการชักชวนให้เทรดหรือระดมทุนในทุกกรณี เราเป็นเพียงสื่อกลางที่มุ่งมั่นแบ่งปันความรู้เท่านั้น
**การซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินทุกชนิดมีความเสี่ยง นักลงทุนหรือนักเก็งกำไรควรทำความเข้าใจก่อนที่จะเข้าซื้อขายสินทรัพย์นั้นๆ**
ข้อมูลลิขสิทธิ์และนโยบายการใช้งานของ cmatthai
ติดต่อทางอีเมล: [email protected]
ติดต่อเพิ่มเติมทาง Line:
Copyright 2024 cmatthai © สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามทำซ้ำหรือคัดลอกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต
เรามีนโยบายในการนำเสนอข้อมูลอย่างโปร่งใสและเป็นกลาง ข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอไม่มีเจตนาในการชักชวน ชี้นำ หรือให้คำแนะนำในการลงทุน
ความคิดเห็นของผู้ใช้
ยังไม่มีความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น